การติดตามคุกคาม (stalking) และการกลั่นแกล้งด้วยการแจ้งเหตุเท็จ (swatting) เป็นกลวิธีการคุกคามทางออนไลน์ที่มักถูกใช้กับนักข่าว บทความนี้เป็นตอนแรกในชุดบทความสามตอนว่าด้วยการคุกคามทางไซเบอร์ โดยผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนจะนำเสนอแนวทางป้องกันสำหรับการรับมือกับการโจมตีประเภทนี้
การติดตามคุกคามและการกลั่นแกล้งด้วยการแจ้งเหตุเท็จเป็นกลวิธีที่มักถูกนำมาใช้เพื่อคุกคามนักข่าว โดยมักส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงและก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยทางร่างกาย ทั้งการติดตามคุกคามทางไซเบอร์และการแจ้งเหตุเท็จล้วนเป็นสิ่งผิดกฎหมายในแทบทุกประเทศทั่วโลก การโจมตีด้วยวิธีนี้ รวมถึงการคุกคามในรูปแบบอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อนักข่าวหญิงในสัดส่วนที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด
- การติดตามคุกคาม (Stalking) หมายถึง การที่บุคคล กลุ่ม หรือองค์กรตกเป็นเป้าหมายของการคุกคามหรือการรบกวนบนอินเทอร์เน็ตโดยผู้กระทำแสดงความสนใจอันไม่พึงประสงค์และหมกมุ่นเกินปกติ กลวิธีของการติดตามคุกคามทางไซเบอร์ (Cyberstalking) อาจรวมถึงการกล่าวหาที่เป็นเท็จ การข่มขู่ การเฝ้าติดตามกิจกรรมของเหยื่อ การทำลายทรัพย์สิน หรือการข่มขู่เพื่อเรียกเอาทรัพย์ (Blackmail) ซึ่งมักเกิดควบคู่ไปกับการติดตามคุกคามในชีวิตจริง
 - การกลั่นแกล้งด้วยการแจ้งเหตุเท็จ (Swatting) เป็นอีกหนึ่งกลวิธีการคุกคาม โดยผู้กระทำจะหลอกลวงหน่วยงานฉุกเฉิน เช่น ตำรวจ ให้เข้าตรวจค้นหรือบุกไปยังที่พักของเหยื่อด้วยข้ออ้างปลอม
 
ในทั้งสองกรณี ผู้กระทำมักไม่เปิดเผยตัวตน ผู้คุกคามอาจเป็นได้ตั้งแต่ “โทรลล์” บนอินเทอร์เน็ตที่อาจมีแรงจูงใจหลากหลาย (เช่น ไม่พอใจในมุมมองหรือผลงานของนักข่าว หรือได้รับค่าจ้างจากองค์กรหนึ่ง ๆ เพื่อคุกคามเหยื่อ) ไปจนถึงบุคคลที่ต้องการหยุดยั้งไม่ให้นักข่าวทำหน้าที่ของตน ตัวอย่างในกรณีล่าสุด ได้แก่ สมาชิกกลุ่มนีโอนาซีในสหรัฐอเมริกาที่ไปคุกคามนักข่าวที่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มของตน โดยการโทรแจ้งเหตุเท็จต่อตำรวจ เพื่อส่งตำรวจไปยังสำนักงานของนักข่าวเหล่านั้น รวมถึงข่มขู่ผ่านทางโทรศัพท์และใบปลิว
มาตรการป้องกัน
- ลบข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของตนเอง แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะป้องกันการกระทำความผิดประเภทนี้ แต่นักข่าวสามารถลดความเสี่ยงได้โดยลบข้อมูลที่บ่งชี้ถึงตำแหน่งที่ตั้งของตนเองจากพื้นที่สาธารณะบนอินเทอร์เน็ตให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น ลบที่อยู่จากฐานข้อมูลราชการ ปิดการระบุตำแหน่ง (Geolocation) ในโพสต์บนสื่อโซเชียล และซ่อนหมายเลขที่อยู่ IP โดยใช้ VPN และเครื่องมือด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อื่น ๆ
 - บันทึกหลักฐานการละเมิด หากตกเป็นเหยื่อของการติดตามคุกคามหรือการแจ้งเหตุเท็จ นักข่าวควรบันทึกหลักฐานของพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายทุกกรณีอย่างเป็นระบบ เช่น การถ่ายภาพหน้าจอ ภาพถ่าย หรือบันทึกการโทร ซึ่งหลักฐานเหล่านี้อาจมีประโยชน์ในการดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยให้พนักงานสอบสวนใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีได้
 - ดำเนินการทางกฎหมาย ทั้งการติดตามคุกคามทางไซเบอร์และการแจ้งเหตุเท็จล้วนเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก นักข่าวที่ได้รับผลกระทบควรตรวจสอบสิทธิของตนตามกฎหมายของประเทศที่ตนทำงานอยู่ และดำเนินการร้องเรียนหรือฟ้องร้องโดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและทนายความที่ไว้ใจ
 
→ อ่าน ตอนที่ 2: การโจมตีแบบ DDoS และการส่งข้อความถล่ม (Message Bombing)
→ อ่าน ตอนที่ 3: การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Doxxing)