ความปลอดภัยทางกายภาพ

เตรียม “ถุงยังชีพ” สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

นักข่าวที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงต้องเตรียมพร้อมรับมือวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และต้องระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา ในบทความนี้ ผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (RSF) ร่วมกับ Watchout องค์กรภาคประชาสังคมจากไต้หวัน ขอนำเสนอเช็กลิสต์สำหรับจัดเตรียม “ถุงยังชีพฉุกเฉิน” พร้อมของจำเป็นทุกอย่างที่ควรมี

นักข่าวที่รายงานในพื้นที่เสี่ยงต้องเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดความขัดแย้งหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ เนื่องจากวิกฤตสามารถเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว นักข่าวอาจเผชิญอันตรายได้แม้กระทั่งในบ้านของตนเอง และอาจจำเป็นต้องอพยพออกจากพื้นที่โดยทันที นั่นคือเหตุผลที่การเตรียม “ชุดยังชีพ” ในถุงยังชีพ และวางไว้ในตำแหน่งที่หยิบใช้งานได้ง่ายจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ต่อไปนี้คือคำแนะนำที่ควรคำนึงถึงในการเตรียมสิ่งของจำเป็น

หลักการในการเตรียมความพร้อม

    • ใช้กระเป๋าสะพายคุณภาพดี เลือกกระเป๋าที่ทนทาน พกพาง่าย และสบาย เหมาะสำหรับการเดินระยะไกล
    • เตรียมถุงยังชีพหนึ่งใบต่อหนึ่งคนต่อหนึ่งสถานที่ นักข่าวควรเตรียมถุงยังชีพให้ทุกคนในครัวเรือนหนึ่งคนต่อหนึ่งใบ โดยสามารถปรับน้ำหนักตามสมรรถภาพร่างกายและช่วงอายุ นอกจากนี้ควรมีชุดยังชีพฉุกเฉินอีกหนึ่งชุดสำหรับสถานที่ทำงาน เพราะเหตุฉุกเฉินสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
    • เตรียมสิ่งของจำเป็น ใส่อุปกรณ์และสิ่งของในกระเป๋า พร้อมติดฉลากวันที่จัดเก็บ ตรวจสอบสิ่งของทุกหกเดือนเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอะไรหมดอายุหรือเสื่อมสภาพและต้องเปลี่ยนใหม่
    • วางไว้ในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่าย จัดวางกระเป๋าในตำแหน่งที่หยิบใช้ได้ทันที เช่น ใกล้ประตูบ้านหรือในโถงทางเดิน
  • ทดสอบน้ำหนัก เมื่อเตรียมถุงยังชีพเรียบร้อยแล้ว นักข่าวควรทดลองสะพายกระเป๋าเพื่อประเมินว่าสามารถรับน้ำหนักได้หรือไม่ และปรับตามความเหมาะสม

สิ่งของที่ควรเตรียม

  • อาหารและน้ำ นักข่าวอาจจำเป็นต้องพึ่งพาเสบียงของตนเองเพื่อความอยู่รอดเป็นเวลา 1 ถึง 3 วันก่อนที่ภาครัฐจะสามารถจัดสรรความช่วยเหลือได้ โดยเฉลี่ยผู้ใหญ่ต้องการพลังงานประมาณ 1,500 แคลอรี่ และน้ำ 2,000 ซีซีต่อวัน สามารถใช้มาตรฐานนี้เพื่อคำนวณปริมาณเสบียงที่ต้องเตรียม นอกจากนี้ อย่าลืมเตรียมอาหารและน้ำสำหรับเด็กหรือสัตว์เลี้ยงที่อาจเดินทางไปด้วย
    • ของใช้ส่วนตัวและเอกสารประจำตัว นักข่าวอาจต้องใช้เอกสารแสดงตนในการอพยพออกจากพื้นที่ รวมถึงการข้ามพรมแดนไปยังประเทศอื่น เอกสารเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเดินทาง จึงควรเก็บสำเนาเอกสารไว้ในถุงกันน้ำเพื่อป้องกันความเสียหาย
  • อุปกรณ์การแพทย์และสุขอนามัย สภาพแวดล้อมระหว่างการอพยพอาจทำให้ยากต่อการรักษาความสะอาด จึงไม่แนะนำให้ผู้ที่มีประจำเดือนใช้ผ้าอนามัยแบบซักใช้ซ้ำในสถานการณ์เช่นนี้

  • อุปกรณ์สื่อสารแบบพกพาและแบตเตอรี่สำรอง ในช่วงภาวะวิกฤตนักข่าวอาจขาดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยนักข่าวสามารถใช้การส่งข้อความเพื่อสื่อสาร และฟังวิทยุเพื่อรับข้อมูลอัปเดตสถานการณ์

รายการสิ่งของฉุกเฉิน

สิ่งที่ควรเตรียมล่วงหน้า

  • อาหารที่เก็บได้นาน ให้พลังงานสูง และพกพาง่าย เช่น ช็อกโกแลตบาร์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เนื้ออบแห้ง
  • น้ำดื่มบรรจุขวดสำหรับสามวัน และเก็บขวดไว้ใช้เป็นภาชนะบรรจุน้ำในภายหลัง
  • เครื่องกรองน้ำและเม็ดฆ่าเชื้อในน้ำ
  • สำเนาเอกสารแสดงตนที่สำคัญทั้งหมด เช่น บัตรประชาชน หนังสือเดินทาง ทะเบียนรถ ใบขับขี่ สมุดบัญชีธนาคาร
  • ข้อมูลติดต่อของสมาชิกครอบครัวและเพื่อนใส่กระดาษ (ชื่อ เบอร์โทร ที่อยู่)
  • แผนที่เส้นทางอพยพกรณีฉุกเฉิน
  • แอลกอฮอล์ทำความสะอาด (เอทานอล) หรือเจลล้างมือ
  • ผ้าเช็ดทำความสะอาดแอลกอฮอล์
  • หน้ากากอนามัย ถุงมือ และแว่นตานิรภัย
  • ผ้าอนามัยแบบสอดและผ้าอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง
  • วิทยุสื่อสารแบบพกพา
  • นกหวีด
  • ชุดอุปกรณ์สำรองพลังงานสำหรับโทรศัพท์มือถือ ประกอบด้วยแบตเตอรี่สำรอง (พาวเวอร์แบงก์) ที่ชาร์จเต็ม สายชาร์จแบบชาร์จเร็ว และอะแดปเตอร์
  • วิทยุ — แบบใช้แบตเตอรี่ แบบหมุนปั่นไฟ หรือแบบพลังงานแสงอาทิตย์
  • ไฟฉายและไฟฉายแอลอีดีคาดศีรษะ
  • ถุงนอน

สิ่งที่ไม่ควรลืม

  • อุปกรณ์จุดไฟ มีดพับสวิส หรืออุปกรณ์อเนกประสงค์ รวมถึงช้อนส้อม
  • กุญแจสำรอง
  • ธนบัตรย่อยและเหรียญ
  • สมุดบันทึกขนาดเล็กและปากกา
  • กรรไกร เทป และกาวชนิดแห้งเร็ว
  • ใบสั่งยาสำหรับยาประจำตัว
  • โทรศัพท์มือถือของตนเองและที่ชาร์จ
  • เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น
  • รองเท้าสำหรับเดิน
  • เสื้อกันฝนน้ำหนักเบา

Watchout เป็นองค์กรภาคประชาสังคมในไต้หวันที่มุ่งเน้นด้านการป้องกันและการเตรียมความพร้อมของพลเรือน